5 เคล็ดลับสำคัญที่คนอยากสำเร็จในธุรกิจต้องรู้

5 เคล็ดลับสำคัญที่คนอยากสำเร็จในธุรกิจต้องรู้

การทำธุรกิจเป็นหนึ่งงานหรือเป้าหมายสำคัญที่ในหนึ่งธุรกิจก็จะมีเส้นทางสู้ความสำเร็จที่หลากหลายให้เราได้เลือกเดิน แน่นอนว่ารวมไปถึงเส้นทางสู่ความล้มเหลวด้วย อย่างนั้นแล้วเพื่อให้โอกาสในความสำเร็จของธุรกิจมีมากขึ้นได้ เรามาลองถอดบทเรียนง่าย ๆ ของคนที่สำเร็จและมีประสบการณ์ดูว่า ถ้าอยากจะเป็นคนสำเร็จจะต้องมีหลักคิดหรือเคล็ดลับอะไรบ้าง

1. มีความเข้าใจในเรื่องที่ทำจริง ๆ

ข้อแรกนี้สำคัญมาก เพราะธุรกิจของเราจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลยหากเราไม่รู้จริงหรือไม่เชี่ยวชาญในสิ่งที่ทำ เพราะทุกวันนี้ตลาดมีการแข่งขันสูง หากเราทำได้ไม่ดีเพราะรู้ไม่จริงสุดท้ายลูกค้าก็จะหนีไปเลือกใช้บริหารหรือซื้อสินค้าของคู่แข่งแทน

2. ทำธุรกิจแบบพอดีอย่าติดหรูเกินไป

ถ้าใครที่ทำธุรกิจในช่วงเริ่มต้นแล้วอยากมีออฟฟิศหรู ๆ มีรถสปอร์ตหรือจ้างคนเยอะ ๆ มาประดับไว้ที่สำนักงานโดยที่ยังไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ ขอบอกเลยว่าถ้าไม่รวยจนเหลือจริง ๆ อย่าทำเด็ดขาด เพราะนั่นคือการใช้เงินไปกับความสิ้นเปลือง ไม่คุ้มค่า ถ้าอยากสำเร็จอาจต้องขี้เหนียวนิดหนึ่ง และให้ลงทุนไปกับสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น

3. ธุรกิจที่สำเร็จเกิดจากการลงมือทำ

ในกรณีที่คุณกำลังลังเลอยู่ว่าจะลงทุนทำอะไรสักอย่าง แต่ติดเรื่องความไม่พร้อม หรือชอบลังเลรอดูสถานการณ์ ดูเศรษฐกิจให้มันดีก่อนค่อยเริ่ม งานนี้ท่าทางธุรกิจที่คุณฝันไว้คงไม่เกิดขึ้น คนมันจะสำเร็จถ้าทำตอนไหนก็สำเร็จ แต่ต้องทำอย่างฉลาดและในช่วงเริ่มต้นควรเลือกทำเพียงอย่างเดียว แต่ทำให้เต็มที่เท่านั้นพอ

4. การพัฒนาอย่างต่อเนื่องคือกุญแจสำคัญ

ถ้าหากคุณอยากให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ที่ต้องทำก็คือการมี Growth Mindset หรือเป็นคนที่เปิดกว้าง รักการเรียนรู้และมีการพัฒนาอยู่เสมอ เพราะการทำธุรกิจไม่ใช่สมการคณิตศาสตร์ที่ผลของการลงทุนมันจะเป็นไปตามที่คำนวณไว้ ทุกธุรกิจที่สำเร็จล้วนต้องผ่านการเรียนรู้ เปลี่ยนแปลง และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา

5. เสี่ยงได้ แต่ต้องรอบคอบ

การทำธุรกิจก็เหมือนการลงทุน ถ้าอยากได้ผลตอบแทนก็ต้องเสี่ยง และยิ่งเสี่ยงมากก็ยิ่งมีโอกาสได้มาก แต่ที่สำคัญคือ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ วิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างรอบด้าน และอย่าใช้อารมณ์ในการตัดสินใจทางธุรกิจเด็ดขาด

ในบางครั้งเราอาจเห็นว่าเคล็ดลับทั้งหมดนี้ฟังดูเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็ทำได้ แต่ที่สำคัญคือน้อยคนที่จะนำไปใช้จนทำเป็นนิสัยและต้องทำให้ต่อเนื่องมากพอ แล้วเรื่องแนวคิดง่าย ๆ ทั้งหมดนี้เองที่จะพาธุรกิจเดินไปบนเส้นทางสู่ความสำเร็จได้จริงอย่างที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้

เลือกแคคตัสทนแดดพันธุ์ไหนดี สำหรับปลูกริมระเบียง

เลือกแคคตัสทนแดดพันธุ์ไหนดี สำหรับปลูกริมระเบียง

การตกแต่งบ้านนั้น เป็นความรื่นรมย์และความสุขในหัวใจของคนรักบ้านอย่างแท้จริง นอกเหนือจากคุณสามารถสร้างความสุขให้กับพื้นที่ส่วนตัวของคุณด้วย ภาพถ่ายที่น่าจดจำ ของที่ระลึกซึ่งชวนให้อบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่ได้เห็นแล้ว ไอเดียการตกแต่งบ้านด้วยกระบองเพชร หรือ แคคตัสนั้น ก็ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนบ้านของคุณให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความสวยงามได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งริมระเบียงน่ารัก ๆ ของคุณ ซึ่งเปิดออกรับแสงแดดสดใส ไอเดียการเลี้ยงแคคตัสไว้ที่บริเวณระเบียงก็เป็นความสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมไม่น้อย อีกทั้งยังทำให้บริเวณริมระเบียงภายนอกของคุณเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติได้อย่างดีอีกด้วย มาลองรับความสุขเรียบง่าย กับแคคตัสต้นน้อย ๆ ของคุณกันเถอะ

เลือกแคคตัสทนแดดพันธุ์ไหนดี สำหรับปลูกริมระเบียง

แคคตัส นั้นมีหลายสายพันธุ์ สำหรับการเลี้ยงแคคตัสเพื่อประดับตกแต่งที่ริมระเบียงนั้น ควรจะต้องเลือกแคคตัสสายพันธุ์ซึ่งชอบแดดมากพอสมควร ที่เราแนะนำ ก็คือ แคคตัสสายพันธุ์ป่า อย่างเช่น แคคตัสบลูเบอรี่ ซึ่งเป็นแคคตัสสายพันธุ์ที่มาจากป่าดิบแล้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าโปร่ง ที่มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยในแต่ละปีน้อยมาก จึงเป็นสายพันธุ์ที่คุ้นเคยกับสภาพแสงแดด และความชื้นสัมพัทธ์น้อยอยู่ก่อนแล้ว หรืออาจจะเลือกเป็น แคคตัสสายพันธุ์ทะเลทราย อย่างเช่น แคคตัสกระเจี๊ยบ ซึ่งแน่นอนว่าสภาพภูมิประเทศในแถบทะเลทรายนั้น ก็จะมีแสงแดดจัดโดยตลอดทั้งปี และแทบไม่มีฝนตกเลย จึงเหมาะกับการปลูกไว้ริมระเบียงซึ่งได้รับแสงแดดจัดหลายชั่วโมงเป็นอย่างมาก

ทั้ง 2 สายพันธุ์จัดเป็นแคคตัสขนาดกลาง ชอบแดดค่อนข้างมาก สามารถเลี้ยงริมระเบียง หรือปลูกลงดินรอบกำแพงบ้านได้ค่อนข้างดี ไม่ต้องการการดูแลมากนัก หากคุณเป็นคนที่มีเวลาน้อย หรือไม่อยู่บ้านบ่อย ๆ แคคตัสทั้งสองสายพันธุ์นี้ ก็จะเหมาะของกับคุณมากที่สุด

การดูแลแคคตัสที่ปลูกประดับริมระเบียง

โดยปกติแคคตัสบลูเบอร์รี่จะเป็นพันธุ์ที่มีหนามแหลม จึงสามารถอยู่ในพื้นที่รับแสงแดดโดยตรงได้หลายชั่วโมง แต่แคคตัสกระเจี๊ยบซึ่งเป็นสายพันธุ์ป่า จะต้องการปริมาณแสงที่น้อยกว่าบ้าง ทั้งสองสายพันธุ์นี้ คุณไม่ควรจะให้น้ำมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดโรครากเน่า สำหรับการให้น้ำแคคตัส ให้คุณสังเกตลักษณะของดิน โดยการลองจิ้มนิ้วมือลงทดสอบในดิน ถ้ารู้สึกว่าเนื้อดินแห้ง คุณก็ค่อยรดน้ำแคคตัสของคุณ แต่ไม่ควรจะรดน้ำให้ชุ่มมากนัก รดน้ำแค่ให้ดินพอเปียกเท่านั้น เพียงเท่านี้แคคตัสน้อย ๆ ของคุณก็จะเติบโตสวยงาม และไม่แน่ว่าอาจจะออกดอกน่ารักๆให้คุณได้อีกด้วย แล้วระเบียงของคุณก็จะสวยงามสดชื่นจนใคร ๆ จะต้องอิจฉา

แคคตัสเป็นพืชที่มีอายุยืนยาว และต้องการการดูแลน้อยมาก ขอเพียงแค่คุณต้องเข้าใจธรรมชาติของแคคตัสเหล่านั้น และให้การรดน้ำที่เหมาะสมเพียงเท่านั้น แคคตัสของคุณก็จะสร้างความสดชื่นให้กับระเบียงบ้านของคุณไปได้อีกนาน แล้วคุณจะต้องแปลกใจอย่างแน่นอน

ฮาโลวีนนี้ เอนจอยร่วมกันกับวัฒนธรรมสะท้อนโลกแห่งความตาย

ฮาโลวีนนี้ เอนจอยร่วมกันกับวัฒนธรรมสะท้อนโลกแห่งความตาย

เมื่อพูดถึงวันฮาโลวีนหรือวันปล่อยผีหลายคนได้ยินกลับไม่รู้สึกกลัว นึกถึงแต่ความสนุกสนานไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศการตกแต่งบ้าน สถานที่ต่าง ๆ และการแต่งหน้า แต่งตัว เหล่านี้ล้วนสะท้อนวัฒนธรรมของต่างชาติที่ได้ตีความเรื่องความตายออกมาได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งหากมองในเรื่องความเชื่อเดิมเล่าว่าเป็นวันที่ประตูมิติของของคนตายและคนเป็นเชื่อมหากันเพื่อฉลองอย่างมีความสุขทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยกิจกรรมที่ว่านั้นมีความน่าสนุกและตื้นเต้น ดังนี้
1. กิจกรรมของเด็ก ๆ ชวนเล่น Trick or Treat เพื่อแลกขนม
แม้จะเป็นวันปล่อยผีแต่ก็น่าแปลกที่เด็ก ๆ ไม่ได้มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย สามารถแต่งตัวเป็นผีเพื่อไปหลอกเพื่อนบ้าน เพื่อไปเคาะประตูเพื่อนบ้าน พร้อมกับร้องถามว่า Trick or Treat ซึ่งมีความหมายว่าจะให้หลอกหรือจะให้ขนม? กิจกรรมนี้จะขาดไม่ได้เลยและเป็นวัฒนธรรมที่สร้างร้อยยิ้มให้ทุกคน

2.ตกดึกคลุมโปงเล่าเรื่องผีกระชับความสัมพันธ์
เมื่อเป็นวันปล่อยผี แน่นอนจะไม่พูดถึงเหล่าภูตผีไม่ได้เลย หลังจากที่ปาร์ตี้สังสรรค์เรียบร้อย เหล่าคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงจะมาล้อมวงคลุมโปงเพื่อเล่าเรื่องผีผลัดกันจนยาวนาน สร้างความตื่นเต้น สำหรับกิจกรรมนี้ไม่เพียงมาในเรื่องของความเชื่อเท่านั้น แต่มีการพูดถึงวิทยาศาสตร์ที่ว่ากันว่า เมื่อมนุษย์เราได้ฟังเรื่องตื่นเต้นอย่างเรื่องผี จะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขหรือที่เรียกกันว่าอะดรีนาลีนหรือโดปามีนก็และสำหรับกิจกรรมนี้ในวันฮาโลวีนเป็นการกระชับความสัมพันธ์อีกด้วย

3.ปลดปล่อยความสุขและความกลัวด้วยการแต่งตัวเป็นผี
เป็นกิจกรรมที่ผู้ใหญ่ดูจะตื่นเต้นที่สุด เพราะได้แต่งตัวในแบบที่ไม่เคยแต่งมาก่อนและหากพูดในมุมของนักจิตบำบัดกล่าวว่า กิจกรรมลักษณะนี้ทำให้เหล่ามนุษย์ได้ปลดปล่อยสิ่งที่เรียกว่า ‘เงามืด’ เมื่อคุณยอมรับในร่างกายที่เหมือนผีได้ก็เท่ากับว่าการเป็นมนุษย์ได้สมบูรณ์แบบอีกขั้น

4.อยากทำอะไรในวันสุดท้าย ลองเขียนบอกลาคนใกล้ตัว
เป็นกิจกรรมที่ต้องเปิดใจไม่น้อย เพราะเป็นการเขียนถึงสิ่งสุดท้ายที่อยากทำหรือมีชีวิตอยู่ แต่หากมองอีกมุมหนึ่งถือว่ามีประโยชน์ไม่น้อย เพราะทำให้ตระหนักการใช้ชีวิตว่าหากคุณรู้ว่าตัวเองมีชีวิตอีกไม่กี่วันจะทำอะไร

ให้วันฮาโลวีนนี้เป็นวันที่คุณได้ปลดปล่อยทั้งความรู้สึก สนุกไปกับกิจกรรมที่ถือได้ว่าเป็นวัฒนธรรมที่ทำต่อ ๆ กันมา ซึ่งไม่เพียงมีความตื่นเต้น เรียกเสียงหัวเราะและเสียงกรี๊ดเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยข้อคิดดี ๆ มากมายว่าเรื่องความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ แต่คุณจะมีวิธีรับมือและมองในมุมไหนอย่างไรเท่านั้นเอง

7 ขุมพลังที่สร้างจากความไม่มี

7 ขุมพลังที่สร้างจากความไม่มี

มุมมองในความไม่มีมองกี่ทีก็เป็นความทุกข์ ตกเป็นข้ออ้างสำคัญให้หยุดก้าวไปข้างหน้า เป็นปัญหาที่ทำร้ายหลายชีวิต และองค์กรให้พังลง แต่สำหรับนักสู้ “ความไม่มีเป็นยาวิเศษ” มีอานุภาพปลุกพลังที่หลับใหลให้ตื่นฟื้น เป็นพลังเชิงบวกที่รังสรรค์โอกาสใหม่ให้สว่างวาบ “ความไม่มี” คือ ขุมพลังดังนี้

1.พลังฮึดอึดอดทน เมื่อหลังชนฝาแรงขับภายในจะส่งให้เกิดการดิ้นรนพยายาม ถอยหลังไม่ได้ หยุดเดินหน้าก็ตาย ความจำเป็นในการรักษาชีวิตรอดผลักให้ต่อสู้ กัดไม่ปล่อยเพื่อให้ได้มาซึ่งแสงสว่างที่รอคอย ซึ่งเราอาจไม่เคยรู้ตัวเลยว่าพลังเหล่านี้มีอยู่ในตัวเรามากมาย

2.พลังสามัคคี และมิตรภาพ เป็นวาระร่วมกันเพื่อรอด ผู้นำเลือดนักสู้จะใช้โอกาสนี้สร้างปึกแผ่นให้ทีม การคิดบวกของผู้นำสำคัญที่สุด การลงไปร่วมรบร่วมลุยกับทีมจะเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นโอกาสสร้างศรัทธาในตัวผู้นำ และเพื่อนร่วมงาน เกิดการเรียนรู้และเข้าใจคน วาระนี้จะเป็นตะแกรงกรองคนที่ไม่ใช่ให้พ้นออกไป คนที่ใช่จะกระชับมิตร เกิดความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ทีมแกร่งจึงเกิดขึ้น

3.พลังจากศักยภาพที่แท้จริง ทุกคนมีของดีติดตัวมาเมื่อภัยมาได้เวลารื้อค้นขุดความเก่งออกมาใช้ ซึ่งจะพบว่าแท้จริงแล้วเราเก่งกว่าที่คิด ความไม่มีจึงเป็นเวทีสร้างฮีโร่

4.พลังของเงิน และเวลา เห็นคุณค่าของเงินทุกบาทฉลาดใช้เวลา ในเมื่อมีข้อจำกัดด้านเงิน ทรัพยากร และคน (ที่ใช่) คู่แข่งก็รุมเร้า ทางเลือกก็มีไม่มาก ทุกวิธีการจะถูกเคี่ยวคิด รอบคอบ ประหยัดงบประมาณ และเวลาให้มากที่สุด แล้วจะพบว่า ความสำเร็จสูงสุดเกิดขึ้นได้เร็ว โดยไม่ต้องใช้เงินเยอะ

5.พลังคิดแตกแหกกรอบ ความไม่มีผลักให้ต้องคิดวิธีการใหม่ที่ต่างไปจากเดิม ฉีกตำนานความสำเร็จในอดีต ทลายกรอบกำแพงเดิม ๆ ลงไปลองเดินเส้นทางใหม่ที่ใช่กว่ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

6.พลังจากภูมิคุ้มกันที่ดี เราถูกลับคมจากการฝึกโจทย์ยากที่สำคัญ ได้รับวัคซีนความกล้าและภูมิที่รู้ว่า “เราทำได้” เราจะไม่หวั่นไหวหากมีโจทย์ท้าทายผ่านมาให้ประลองฝีมืออีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเราจะเฉียบคมหลักแหลมขึ้น

7.พลังแห่งภัย สำเร็จได้เพราะภัยมา ที่ไหนมีปัญหาที่นั่นมีไอเดีย ไม่มีภัยไม่รู้จักโอกาสใหม่ที่รออยู่ ภัยจากความไม่มีเปิดประตูสู่ความมีมากมาย จงสนุกในการกู้ภัย เรียนรู้และสร้างความสำเร็จใหม่ ๆ จากทุกภัยที่เกิดขึ้นในชีวิต

ถึงตอนนี้ลองถามตัวเองว่าเรามีเลือดนักสู้อยู่ในตัวมากน้อยแค่ไหน มุมมองในความไม่มีของเราเป็นอย่างไร หากยังคิดว่ามันคือศัตรูคู่อาฆาต คืออุปสรรคชิ้นใหญ่ฝันใด ๆ ก็คงต้องสลายเพียงเท่านี้ แต่หากเราเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ให้ “ความไม่มี” เป็นเพื่อนซี้ เป็นยาชูกำลัง ทุกความหวัง ความฝันก็มีโอกาสเป็นจริงได้ด้วยมือเรา