Blogging

แน่นอนว่าอาจจะมีผู้จัดการทีมไลน์คนอีกมากมายที่ประสบความสำเร็จ แต่ 3 กุนซือที่เรามานำเสนอในวันนี้ พวกเขาคือบุคคลที่โด่งดังในยุคปัจจุบัน ที่มีการคุมทีมสไตล์การเล่นเหมือนคนยุค 70 อ่านเกมได้เฉียบแหลมและแก้เกมได้ตรงจุด ในสมัยที่พวกเขานั้นยังเป็นนักฟุตบอลถือว่าการเล่นนั้นโดดเด่นพอสมควรและบางคนก็เป็นตำนานที่ไม่เคยถูกลืม จะมีใครบ้างไปติดตามกันได้เลย

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่หลายคนนั้นคุ้นชื่อและคุ้นหูกันทั่วโลก เพราะเขานั้นเป็นศิษย์เอกของท่านเซอร์ ที่มีสไตล์การเล่นและการจัดแผนคล้ายๆกัน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา วิชานอร์เวย์ สมัยนี้เขาค้าแข้งอยู่กับแมนยู บอกเด้อว่าฝีเท้าของเขาคมกริบ พริ้วไหวดั่งสายน้ำ เป็นกองหน้าตัวรุกที่ ท่านเซอร์ ได้หยิบมาใช้งานบ่อยครั้ง แล้วยังเป็นตัวหลักของทีมชาตินอร์เวย์อีกด้วย โซลชา ได้แขวนสตั๊ดในปี 2006 และได้ทำการลงเป็นผู้จัดการทีมสมัครเล่น จนแต่ต้องทำผลงานได้ดีไม่ใช่น้อย และได้มีโอกาสมาคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเขาก็เหมือนฮีโร่ที่เข้ามากลางฤดูกาล ต่อจาก มูรินโญ่ ผลงานทำได้ค่อนข้างดี และฤดูกาลล่าสุดที่ผ่านมา จบอันดับที่ 3 ของฤดูกาลได้อย่างสวยงามด้วยการชนะ 17 นัดติด มาในฤดูกาล 2020-2021 ผลงานทำได้ดีอย่างต่อเนื่องอีกเช่นกัน แพ้มาเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น มีโอกาสได้ลุ้นแชมป์ในฤดูกาล 2020 อย่างแน่นอน ยังไงก็ตามเขาคือตำนานนักเตะกองหน้าที่ไม่เคยถูกลืม

เจอร์เก้น คล็อปป์

เจอร์เก้น คล็อปป์ หรือว่าเป็นคนซื้อที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการคุมทีมฟุตบอล เขาเป็นชาวเยอรมัน ที่มีฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ถ้าย้อนกลับไปตอนสมัยเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เรียกว่าเป็นแกนหลักของทีม รับหมดเกือบทุกตำแหน่ง แต่ตำแหน่งที่ถนัดที่สุดคือแบ็คขวา และมักจะถูกสับเปลี่ยนตำแหน่งเป็นกองหน้าอยู่ประจำ แล้วทำให้ผลงานนั้นโดดเด่นตระการตาจนทำให้ติดทีมชาติเยอรมันในยุคนั้น และเขาก็คือนักเตะคนหนึ่งที่แฟนบอลรักและชื่นชมตลอดมา ถ้าหากพูดถึงในปัจจุบันเขาเองนั้นก็ได้เป็นเพื่อการทีมของสโมสรลิเวอร์พูล และเป็นคนแรกในรอบ 30 ปี ที่พาทีมคว้าแชมป์ อังกฤษ พรีเมียร์ลีกได้ ยังมีแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกในฤดูกาล 2018 และตอนสมัยที่คุมทีมของดอร์ทมุนด์ ก็มี ผลบอลสด โชว์แชมป์ติดไม้ติดมือมาเป็นโปรไฟล์ให้กับตัวเองแบบไม่ใช่น้อย คล็อปป์ เป็นคนแรกที่ชาว ลิเวอร์พูล นั้นรักเขา เขาทุ่มเทให้อย่างหนักกลับด้านฟุตบอลและทีมที่เขาต้องรับผิดชอบ

โฮเซ่ มูรินโญ่

โฮเซ่ มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส ที่มีความคิดฉลาดหลักแหลม วางแผนแทคติกได้แบบแม่นยำ ไม่ว่าเขาจะไปคุมทีมไหนแน่นอนว่าทีมนั้นต้องมีแชมป์อย่างน้อยหนึ่งรายการ เขาเริ่มเอาดีทางด้านการเป็นผู้จัดการทีม หลังจากที่เขาเล่นบอลอาชีพได้เพียงแค่ 7 ปี เนื่องจาก โฮเซ่ มูรินโญ่ มีฝีเท้าที่ไม่ค่อยเก่งกล้าสักเท่าไหร่ และไม่ใช่ตัวสำคัญของทีมอีกด้วย มันจึงทำให้เขานั้นต้องคิดและทบทวนตัวเองว่าการเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ มันคือทางด้านดีของเขาหรือเปล่า แต่ถ้าย้อนดูฟอร์มการเล่นของเขาแล้วก็ดูธรรมดาไปเลย เหมือนกับนักเตะตามสโมสรสมัครเล่นต่างๆ และเขายังถูกผู้จัดการทีมบ่นอยู่ตลอดเวลาในฟอร์มการเล่นของเขาที่เหมือนจะขี้เกียจไล่บอล แล้วเวลาต่อมาไม่นานมูรินโญ่ ก็ได้แขวนสตั๊ดและหันมาเรียนรู้ทางด้านคุมทีมฟุตบอลแบบเต็มตัว จนในปัจจุบันเขาโด่งดังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะไปสโมสรไหนเขาก็ทำผลงานได้ดีตลอดเวลา

ช่วงต้นปี 2563 มีปัญหาไวรัสโควิดระบาดทั่วโลกรวมถึงภายในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน ผลตอบแทนในการลงทุนทุกรูปแบบ ทั้งหุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์ ทำให้โดยรวมมีคนยากจนมากขึ้นหรือมีภาวะหนี้สินเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่กลายเป็นคนรวยผู้มีฐานะมั่งคั่งร่ำรวยได้จากการปรับตัวเลือกประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ดังที่เราจะยกตัวอย่าง ต่อไปนี้

1. รับจ้างทำความสะอาดฆ่าเชื้อ

เชื้อไวรัสโควิด มีอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ การป้องกันด้วยการสวมหน้ากากจึงสำคัญเช่นเดียวกันกับการฆ่าเชื้อทำความสะอาดตามบ้านเรือนสถานที่ต่าง ๆ ทำให้มีคนจำนวนหนึ่งที่มีความรู้ทางด้านสาธารณสุข รับจ้างทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างมืออาชีพ และจ้างโรงงานผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อ เจลแอลกอฮอล์ที่เป็นสูตรเฉพาะของตัวเอง เพื่อตอบสนองความต้องการของท้องตลาดได้อย่างดีที่สุดในช่วงเวลานี้ด้วย

2. ขายสินค้าในระบบออนไลน์

การที่รัฐบาลจำกัดระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distance ทำให้คนไม่สามารถขายของตามหน้าร้านอย่างปกติได้ การขายของออนไลน์จึงเป็นช่องทางที่สำคัญที่ทำให้ผู้ขายและผู้ซื้อได้พบกัน โดยไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อแต่อย่างใด สินค้าที่ผู้คนนิยมสั่งซื้อออนไลน์มีทั้งอาหาร เสื้อผ้า ของใช้ในสำนักงาน เนื่องจากต้องทำงานจากที่บ้านหรือ work from home กันมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังรวมถึงอุปกรณ์ออกกำลังกาย เพราะผู้คนต่างตื่นตัวด้านเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายจากภายใน และต้องการควบคุมน้ำหนัก เพิ่มความฟิตของร่างกายด้วยการออกกำลังกายจากที่บ้านแทนในสวนสาธารณะอย่างเคยด้วย

3. ให้บริการส่งอาหารตามสั่ง

เนื่องจากผู้คนไม่สะดวกเดินทางไปสั่งซื้ออาหารตามร้านและหิ้วกลับเข้ามารับประทานยังที่พักของตัวเอง การสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันที่มีพนักงานไปช่วยซื้อและจัดส่งให้ถึงบ้าน เช่น Lineman Grabbike Foodpanda จึงลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย และยังได้อาหารที่อร่อยถูกใจอีกด้วย งานส่งอาหารออนไลน์ในช่วงเวลานี้ จึงเป็นอาชีพที่มีรายได้ที่สูงมากกว่าช่วงเวลาปกติหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

4. นักเขียนออนไลน์

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันจำนวนมากที่ตอบโจทย์ความต้องการอ่านของคนที่ใช้งานโทรศัพท์มือถือ ถ้าคุณมีความสามารถในการเขียนนิยายหรือเล่าเรื่องราวต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน สามารถสมัครสร้างรายได้เป็นนักเขียนออนไลน์ได้ตลอดเวลา ซึ่งในช่วงเวลานี้ จะมีคนพร้อมอ่านจำนวนมากเพื่อผ่อนคลายจากความตึงเครียดจากเรื่องโควิดและภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา

หากคุณมีความขยันหมั่นเพียร และไม่นิ่งนอนใจที่จะต่อยอดความรู้ความสามารถให้เหมาะสมกับสถานการณ์ แม้ในจังหวะที่ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาโรคระบาดโควิด-19 คุณก็ยังสามารถที่จะสร้างรายได้สวนกระแส เป็นคนรวยหน้าใหม่ได้แน่นอน

สิ่งที่ขัดขวางหรือเป็นอุปสรรคถ่วงความเจริญ คือ นิสัยความขี้เกียจซึ่งจะมีอยู่ในตัวทุกคน บางคนมีมาก บางคนมีน้อย แต่ใช่ว่าจะเป็นข้อเสียเสมอไปเพราะความขี้เกียจบางประเภทก็สามารถเป็นแรงผลักดันให้ประสบความสำเร็จได้ หากใช้ถูกวิธีและเป็นประโยชน์ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมาบอกประเภทของนิสัยขี้เกียจให้คุณได้รับรู้เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ซึ่งมีอะไรบ้าง มาดูกัน

ประเภทของนิสัยขี้เกียจ

ความขี้เกียจประเภทที่ 1 ไม่คิดจะพัฒนาอะไร

ความขี้เกียจแบบนี้เป็นสิ่งขัดขวางความสำเร็จเพราะเป็นการใช้ชีวิตไปวัน ๆ อยากสบายจนไม่คิดที่จะพัฒนาที่จะทำอะไร หากขี้เกียจในลักษณะนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะส่งผลต่ออนาคต หมายความว่า จะมีการใช้ชีวิตไปด้วยความลำบากในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน เนื่องจากไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้ในชีวิตเลย

ความขี้เกียจประเภทที่ 2 รับผิดชอบแต่ไม่ดิ้นรน

ความขี้เกียจแบบนี้ คือ คนที่มีงานที่ต้องรับผิดชอบและค่อนข้างมั่นคงอยู่แล้ว จึงมีความคิดว่า ไม่ต้องพัฒนาและไม่ต้องดิ้นรนมากมายนัก ทำให้ทำงานแบบเสร็จไปวัน ๆ เมื่อคิดเช่นนี้ทำให้ไม่เกิดความคิดสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ และงานที่ทำอยู่ก็จะไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็น

ความขี้เกียจประเภทที่ 3 หาทางลัดเพื่อให้งานเสร็จได้เร็ว

ความขี้เกียจในลักษณะนี้ไม่ใช่สิ่งที่ขัดขวางความประสบความสำเร็จแต่จะเป็นความขี้เกียจในลักษณะที่ทำให้ชีวิตก้าวหน้า เพราะจะหาหนทางที่เป็นวิธีลัด กล้าได้กล้าเสีย อาจจะใช้อุปกรณ์มาทำงานแทนที่วิธีการเดิม ๆ เพื่อที่จะได้ทำงานเสร็จเร็วขึ้นโดยใช้แรงน้อยที่สุดและสบาย มีเวลาพักผ่อนมากกว่าเดิม เช่น หากทำงานที่เกี่ยวกับยกของ ก็จะหาแม่แรงยกเพื่อประหยัดแรงตัวเองจะได้ไม่เหนื่อย ถือว่าเป็นความขี้เกียจที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ จึงไม่ต้องยกของหลายกล่องด้วยตัวเองจนทำให้เหนื่อยและทำงานได้ไม่เยอะ นอกจากนี้ คนขี้เกียจประเภทนี้จะมองออกว่างานไหนมีความสำคัญมากน้อยเพียงใด แล้วจะจัดลำดับโดยการเลือกทำงานที่สำคัญและตัดงานที่ไม่สำคัญออกไป

ความขี้เกียจส่งผลต่อความสำเร็จได้ หากได้ใช้สติปัญญาให้การทำงานง่ายและเบาขึ้น คนขี้เกียจแบบนี้มักใจเย็น ผ่อนคลายเพราะไม่เครียดกับผลงานมากเกินไป บางทีจะดีกว่าคนขยันหลาย ๆ คน ที่มีความจริงจังกับงานมากเกินไปจนสมองไม่ปลอดโปร่ง ศักยภาพที่มีบดบังไปด้วยความเครียด ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงได้ ในทางตรงข้ามหากความขี้เกียจในลักษณะอู้งาน งานหนักไม่เอาหรืองานเบาไม่สู้ ก็ยากประสบความสำเร็จได้

ดังนั้น ควรสังเกตตัวเองว่ามีความขี้เกียจประเภทใด เพื่อที่จะได้พัฒนาตัวเองให้มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นไป

เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งที่เจ้าของกิจการมีความต้องการเดียวกันคือลดตัวเลขของค่าใช้จ่ายให้น้อยลงและต้องการเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ฉะนั้นเจ้าของกิจการทุกคนย่อมมองหาวิธีที่จะทำให้ตัวเลขของรายจ่ายนี้ลดลง โดยวันนี้เรามี 4 วิธีที่มักจะเห็นองค์กรหลากหลายวงการนำมาใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายมานำเสนอให้คุณลองนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลยว่ามีข้อไหนที่คุณสามารถนำไปใช้ได้บ้าง

จะทำอย่างไรเพื่อลดค่าใช้จ่ายในกิจการ

ลดจำนวนพนักงานให้น้อยลงแล้วใช้ทรัพยากรมนุษย์ที่มีอยู่อย่างเต็มที่ – คุณอาจเคยได้ยินข่าวการปลดจำนวนพนักงานให้น้อยลงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายมาหลายครั้ง โดยองค์กรที่ปลดพนักงานออกนั้นไม่ได้เป็นองค์กรที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานที่มีการจ้างพนักงานจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังรวมถึงองค์กรทั่วไปที่ประกอบธุรกิจแบบ SME ด้วยเช่นกัน โดยหลังจากที่มีการปรับจำนวนพนักงานลดลงแล้ว ก็จะมีพนักงานจำนวนหนึ่งที่ต้องทำงานหนักขึ้นและปรับตัวให้ทำงานได้แบบหลากหลายหน้าที่ในตำแหน่งเดียวอีกด้วย

จ้าง outsource ในการทำงานที่ต้องใช้ความชำนาญ – สำหรับหน้าที่บางอย่างหรือบางตำแหน่งนั้นอาจทำให้องค์กรต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากเพื่อจ้างคนให้มาทำงานในองค์กร ซึ่งการจ้าง outsource ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ มาทำงานให้ในช่วงเวลาหนึ่งอาจเป็นวิธีที่คุ้มค่ามากกว่าเพราะองค์กรไม่จำเป็นต้องจ้างให้เข้ามาทำงานในองค์กรในระยะยาวให้เสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากเหมือนการจ้างพนักงานประจำ อีกทั้งยังไม่ต้องเสียค่าสวัสดิการ โบนัสหรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ

ตัดค่าใช้จ่ายค่าสำนักงานโดยให้พนักงานทำงานที่บ้าน – สำหรับองค์กรสมัยใหม่มีการจ้างพนักงานโดยให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ ซึ่งองค์กรสามารถตัดค่าใช้จ่ายสำนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบำรุงอาคารและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องมอบให้กับพนักงานในกรณีที่ต้องให้พนักงานเข้าออฟฟิศเป็นประจำอีกด้วย โดยองค์กรก็ยังได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการให้พนักงานไปทำงานที่สำนักงานด้วยเช่นกัน

ปรับเปลี่ยนของใช้ในสำนักงาน – วิธีปรับเปลี่ยนของใช้ในสำนักงานนั้นมีหลายวิธี เช่น เปลี่ยนการใช้หลอดไฟนีออนมาเป็นหลอดไฟ LED ที่ให้แสงสว่างมากกว่าแต่ประหยัดค่าไฟได้มากกว่า หรือจะเป็นวิธีที่เปลี่ยนการส่งงานโดยใช้กระดาษมาเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำให้องค์กรไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อกระดาษ เครื่องปริ้นท์และค่าบำรุงรักษาเครื่องปริ้นท์อีกด้วย

ทุกองค์กรมีความต้องการในการลดค่าใช้จ่ายด้วยกันทั้งนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจหรือคนที่ควบคุมรายจ่ายต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพในการทำงาน หากลดค่าใช้จ่ายแล้วทำให้ศักยภาพของการทำงานลดลงแล้ว ก็อาจทำให้คุณต้องคิดใหม่อีกครั้งหรืออาจหาวิธีอื่นในการคงประสิทธิภาพการทำงานเอาไว้ให้เหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยงบประประมาณที่จำกัดนั่นเอง

การเที่ยวช่วงปีใหม่เป็นเวลาที่หลายคนชื่นชอบ เพราะเท่ากับเป็นการเพิ่มพลังในการทำงานให้แก่ตัวเองหลังจากเคร่งเครียดมาตลอดหลายเดือน ทั้งนี้การจะไปเที่ยวให้สนุกต้องพกพาอุปกรณ์อะไรบ้าง มาดูกันเลย

1. กล้องติดรถยนต์

คนไทยส่วนใหญ่นิยมขับรถเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดด้วยตัวเอง เพราะจะทำให้แวะพักที่จุดจำหน่ายสินค้าและเข้าห้องน้ำได้สะดวกตลอดเส้นทาง กล้องติดรถยนต์จึงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่รถทุกคันควรมีเพื่อช่วยในการบันทึกภาพการเดินทางกลางวันและกลางคืน หากมีอุบัติเหตุจะได้มีหลักฐานดูเลขทะเบียนรถ หรือติดตามใบหน้าคู่กรณี เป็นตัวช่วยให้ตำรวจติดตามได้ง่ายขึ้นด้วย

2. แบตเตอรี่สำรอง

โทรศัพท์มือถือเป็นของใช้ที่ทุกคนมี ทั้งถ่ายรูป เล่น Line Facebook ดูหนังออนไลน์ ฯลฯ ทำให้แต่ละวันต้องมีการชาร์จเพิ่ม 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะหากคุณอยู่ระหว่างการท่องเที่ยว ที่ต้องมีแบตเตอรี่สำรองเป็นตัวช่วยที่ทำให้หมดความกังวลเรื่องมือถือจะใช้การไม่ได้ ที่สำคัญสายชาร์จต้องเป็นชนิดที่สามารถต่อกับระบบชาร์จไฟในรถยนต์ได้ด้วย นอกจากนี้ ระหว่างการเดินเท้าท่องเที่ยวในเมืองหรือสถานที่ท่องเที่ยว หากใช้โทรศัพท์มือถือแล้วแบตเตอรี่ใกล้หมดก็สามารถชาร์จจากแบตเตอรี่สำรองได้ทันที

3. ไม้เซลฟี่

อุปกรณ์ถ่ายรูปที่ทำให้คุณได้ภาพความประทับใจสวย ๆ ไม่ว่าจะเดินทางไปคนเดียวหรือเป็นหมู่คณะ คือ ไม้เซลฟี่ ซึ่งสามารถพับเก็บพกพาในกระเป๋าได้ตลอดเวลา คุณอาจเคยเห็นข่าวว่ามีคนขโมยโทรศัพท์หรือกระเป๋าระหว่างขอให้ช่วยถ่ายรูป ดังนั้นการพกไม้เซลฟี่ไว้ตลอดเวลา จะช่วยให้คุณสบายใจไร้ปัญหาถูกขโมยของให้เสียอารมณ์แน่นอน หากตอนนี้คุณยังไม่มีไม้เซลฟี่ แนะนำให้สั่งซื้อจากร้านค้าออนไลน์ก็ได้เช่นกัน มีให้เลือกตั้งแต่ราคา 100 บาท ขึ้นไป

4. ลำโพงแบบพกพา

การดูหนังฟังเพลงจากมือถือ คงจะได้อรรถรสยิ่งขึ้น เมื่อมีลำโพงต่อแบบพกพา คุณสามารถแบ่งปันความสุขกับเพื่อนร่วมทริปให้สนุกกับหนังพร้อม ๆ กันหรือจะเปิดเพลงเพื่อเต้นรำริมชายหาด หรือร้องคาราโอเกะ ก็ไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องเสียง ที่สำคัญ ถ้าคุณต้องการไปเที่ยวริมทะเลหรือเผื่อไว้ใช้ในเทศกาลสงกรานต์ก็ควรต้องเลือกซื้อแบบกันน้ำได้ จะได้มีอายุการใช้งานนานขึ้นด้วย

5. หลอดไฟต่อ USB

หากต้องการใช้ไฟฟ้าแบบไม่สว่างมากเกินไปจนรบกวนเพื่อน เช่น คุณพักในเต็นท์ หรือต้องพิมพ์งานด่วนส่งทางอีเมลตอนมืด ๆ ไม่ต้องกังวลว่าแสงจะรบกวนคนอื่น ถ้ามีหลอดไฟต่อ USB กับ notebook ไม่ทำให้เปลืองแบตเตอรี่มากและยังช่วยถนอมสายตาให้คุณได้ด้วย

อุปกรณ์ที่ต้องมีในเวลาท่องเที่ยวมีหลายชนิดที่ให้ทั้งความสะดวกและเสริมสร้างความปลอดภัย ทั้งนี้ต้องฝากบ้านไว้กับโครงการของตำรวจ หรือให้เพื่อนบ้านช่วยดูแลชั่วคราวด้วย จะทำให้เที่ยวได้อย่างสบายใจขึ้น