5 สัญญาณ แค่มองเป็นก็อ่านใจได้

5 สัญญาณ แค่มองเป็นก็อ่านใจได้

การสื่อสารทั้งของสัตว์และมนุษย์นั้น มีทั้งการเปล่งวาจาและการใช้ภาษาท่าทางหรืออวัจนภาษา ซึ่งมีความหลากหลายมากกว่าการใช้คำพูด เช่น ท่าทาง การมอง การสบตา การเดิน การยิ้ม เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าใจได้ด้วยประสบการณ์ แต่ถ้าอยากเรียนรู้ทางลัด เราก็มีสัญญาณท่าทาง 5 แบบที่น่าสนใจมาฝากกัน หากนำไปใช้ก็จะสามารถรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ได้ เพื่อดูว่าคู่สนทนาพร้อมในการพูดคุยกับเรามากน้อยแค่ไหน ซึ่งคุณผู้อ่านเองก็น่าจะเคยทำท่าทางเหล่านี้มาก่อนแล้วโดยไม่รู้ตัว

1.อาการกอดอกหรือไขว้ขา บอกได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งกำแพงกับเราอยู่ อาจจะเป็นอคติส่วนตัวหรือความไม่สบายใจบางอย่างที่มีต่อเราก็ได้ เป็นการแสดงท่าทางว่าไม่พร้อมรับข้อมูลหรือความคิดเห็นใด ๆ หรือถึงแม้จะมีการโต้ตอบกันบ้างก็ไม่แน่ว่าข้อมูลที่ได้รับมานั้นจะมีประสิทธิภาพ ทางที่ดีหากสังเกตเห็นสัญญาณนี้ควรหยุดการสื่อสารทันที รอเวลาให้ผู้รับสารพร้อมรับข้อมูลก่อน แล้วจึงค่อยสื่อสารใหม่ในเวลาที่เหมาะสม

2.ยิ้มจากใจไปถึงดวงตา การฝืนยิ้มหรือยิ้มแห้งมักเกิดจากความต้องการซ่อนเร้นหรืออำพรางความรู้สึกภายในจิตใจ ร่างกายจึงแสดงท่าทางออกไปแบบนั้น ตรงกันข้ามหากเรามองเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่ายที่ฉีกยิ้มจนแก้มปริ หรือไม่สนใจกระทั่งริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนใบหน้าในเวลานั้น หมายถึงอีกฝ่ายกำลังแสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่มี ดังนั้นหากอยากจะสื่อสารอะไรในตอนนี้ก็ลุยไปได้ให้เต็มที่

3.ขอเพียงแค่สบตา เหมือนคำกล่าวที่ว่าดวงตาคือหน้าต่างของจิตใจ หากพบว่าอีกฝ่ายจงใจจ้องตาคุณนานเกินไป ขอให้มั่นใจได้เลยว่าเขาคนนั้นกำลังปกปิด ซ้อนเร้นบางสิ่งอยู่ หรือที่ร้ายไปกว่านั้นคือถึงขั้นโกหกกันเลยทีเดียว เพราะจากการศึกษาพบว่าการที่คู่สนทนาพยายามสบตากับเราตลอดเวลาไม่ให้คลาดสายตาแม้สักวินาที หมายถึงอีกฝ่ายกำลังอึดอัดหรือพยายามปกปิดข้อเท็จจริงบางอย่างอยู่ และกลัวว่าเราจะจับโป๊ะได้ ถึงได้แสดงออกไปเช่นนั้น

4.มองดูนาฬิกาบ่อย ๆ แสดงว่าเขากำลังมีธุระ เช่น มีนัดที่ต้องรีบไป หรือว่าไม่อยากสนทนาต่อ เมื่อเป็นเช่นนี้ให้รีบจบการสนทนา เพราะหากพูดคุยต่อไป อีกฝ่ายก็ไม่มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการสนทนาได้ทั้งหมด

5.อาการขบกรามหรือกำมือแน่น เป็นอาการที่บ่งบอกว่ากำลังอึดอัด ไม่สบายใจ วิตกจริตหรือมีความเครียดสูง นั่นหมายความว่าจิตใจอยู่ในช่วงที่ผิดปกติ ย่อมหมายถึงการสื่อสารใด ๆ ในช่วงนี้ จะมีแต่ผลกระทบที่เป็นลบ จึงควรหาเวลาที่อีกฝ่ายดูผ่อนคลายแล้วค่อยสนทนากันใหม่ก็ยังไม่สาย

การสนทนากับผู้อื่น ต้องคอยสังเกตภาษาท่าทางเหล่านี้อยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่ากำลังสื่อสารกันในสภาวะที่ทั้งสองฝ่ายเปิดใจและพร้อมรับฟังกัน หากมีสัญญาณของความไม่พร้อม ก็ไม่ควรเจรจาเรื่องสำคัญ เพราะอาจจะไม่บรรลุข้อตกลงหรือเกิดความไม่เข้าใจกันได้ ยังมีภาษาท่าทางอีกมากที่ต้องอาศัยประสบการณ์และการสังเกต เพื่อให้สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ดีขึ้น